GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Dragon Quest Builder II"
บทสัมภาษณ์ผู้พัฒนา Dragon Quest Builders 2 กับคำถามที่จะทำให้คุณรู้จักตัวเกมมากขึ้น
เกมหนึ่งที่น่าสนใจ หลังจากที่ GameFever  ได้ไปทดลองเล่นในงาน Tokyo Game Show 2018 ก็คือ Dragon Quest Builders 2 เกมแนว Sandbox ที่จะให้ผู้เล่นสวมวิญญาณเป็นนักสร้าง ช่วยฟื้นฟูโลกและต่อกรกับเหล่าร้าย มีเนื้อเรื่องหลักเชื่อมมาจาก Dragon Quest II ที่เคยออกมาตั้งแต่ปี 2530 โดยเราก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์สองโปรดิวเซอร์ของ Dragon Quest Builders 2 อย่างคุณ Noriyoshi Fujimoto และ คุณ Takuma Shiraishi กับคำถามที่จะทำให้เพื่อนๆ รู้จักเกมในดวงใจมากขึ้น   เกม Dragon Quest Builders 2 จะมีส่วนไหนที่คล้ายกับเกม Dragon Quest XI: Echoeds of an Elusive Age ที่เพิ่งออกมาบ้างหรือเปล่า ทั้งสองเกมนี้ (Dragon Quest 11 และ Dragon Quest Builder 2) ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย อันที่จริง Dragon Quest Builder 2 มีอ้างอิงมาจากโลกของ Dragon Quest II: Luminaries of the Legendary Line เสียมากกว่า ดังนั้นผู้เล่นจะเห็นความเชื่อมโยงของเกม Spin-off นี้กับเกมหลักอย่างภาค 2 ค่อนข้างมาก   ภาคนี้เป็นภาคแรกที่เกมเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ลงไปสำรวจโลกใต้น้ำได้ เท่าที่ผมสังเกตเห็น ตอนที่ตัวละครว่ายอยู่ในน้ำจะมีหลอด Stamina ขึ้น อยากทราบว่าหากค่า Stamina ลดลงแล้วจะเกิดอะไรขึ้น การลดลงของค่า Stamina ไม่ได้รุนแรงจนถึงขั้นทำให้ตัวละครตายได้ แต่มันถูกดีไซน์ออกมาให้แบบที่ทำให้ผู้เล่นไม่อยากให้ค่านี้หมดลง ถ้าถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ผู้เล่นต้องทำก็คือจะต้องกลับขึ้นไปบนเกาะหรือชายฝั่งที่ใกล้ที่สุด ใน Dragon Quest Builder 2 มีระบบสภาพอากาศ หรือภัยพิบัติอะไรหรือไม่ ที่จะสามารถทำลายสิ่งก่อสร้างของผู้เล่นได้ ในเกมจะไม่มีภัยพิบัติธรรมชาติใดๆ แต่ว่าคุณจะได้เจอกับเหล่ามอนสเตอร์ที่จะพุ่งเข้ามาทำร้ายคุณ และคุณก็ต้องพยายามต่อสู้ป้องกันศัตรูเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นคอนเซปต์หลักของเกม นอกจากนี้มอนสเตอร์บางชนิดก็ยังสามารถทำลายสิ่งก่อสร้างหรือการเพาะปลูกของเราได้อีกด้วย   เกาะในเกมมีลักษณะเป็นแบบไหน ผู้เล่นทุกคนจะเจอเกาะที่เหมือนกัน หรือว่าตัวเกมจะสุ่มเกาะออกมาให้แตกต่างกันเหมือนอย่างเกม Minecraft แม้เกาะตอนที่ตัวละครตื่นขึ้นมาตอนแรกจะมีลักษณะเหมือนกันหมดทุกคน แต่ผู้เล่นก็สามารถปรับเปลี่ยนเกาะได้ตามใจชอบ ตอนแรกเราก็มีระบบอัลกอริทึ่มที่ชื่อว่า Procedural Generation ช่วยสร้างแผนที่แบบสุ่มอยู่เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามเกมนี้ถูกดีไซน์ให้ค่อนข้างผูกอยู่กับเนื้อเรื่องหลัก พอต้องทำเควสท์แล้วระบบการมีระบบ Procedural Generation เราเลยตัดสินใจเอาระบบนี้ออกซะ ทำไมถึงต้องคงความสูงของการสร้างบล็อกไว้สูงสุดที่ 100 ชั้น ทำไมไม่ออกแบบเกมให้สร้างสิ่งก่อสร้างที่สูงกว่านั้นได้ อันที่จริงเราก็อยากจะให้สร้างสูงเท่าที่จะสร้างได้ แต่เราต้องทำให้องค์ประกอบต่างๆ ของเกมสมดุลย์กันด้วยและความสูงที่ 100 บล็อกนี้ก็สูงที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ในตอนนี้   เราสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างให้สูงสุดได้ 100 ชั้น แล้วเราสามารถขุดลงไปได้กี่ชั้น 100 ชั้นคือข้อกำกัดของทั้งความสูงและความลึกรวมกัน ซึ่งแต่ละเกาะจะมีจุดเริ่มต้นของการสร้างที่ไม่เหมือนกัน (เช่น บางเกาะมีพื้นสูงอยู่แล้ว 10 บล็อค) หรือในบางกรณีผู้เล่นก็อาจจะต้องทำการขุดลงไปได้ลึกลงไปอีก (อธิบายสั้นๆ ก็คือ ความสูง 100 บล็อคที่เกมรองรับให้ผู้เล่นสามารถสร้างได้ นับจากความสูงของพื้นทะเลขึ้นมานั่นเอง) มันค่อนข้างชัดเจนว่าเกมถูกสร้างมาให้อยู่ในโลกของ Dragon Quest 2 จะโอกาสมั้ยที่เราจะได้เห็นบอสหรือมอนสเตอร์จากเกมในซีรีส์หลักนี้ เรายังให้คำตอบหรือเปิดเผยตอนนี้ไม่ได้ แต่เท่าที่พวกคุณเห็นคือในคลิปเทรลเลอร์ก็มีเหล่ามอนสเตอร์ออกมาให้เห็น เราอยากให้พวกคุณเอาคำใบ้เหล่านี้มาลองจินตนาการกันเองไปก่อน   เราประทับใจที่ Malroth จะได้รับบทให้เป็นผู้ร่วมผจญภัยไปกับผู้เล่นด้วย คำถามคือแล้วผู้เล่นสามารถควบคุมตัวละคร Malroth ได้หรือไม่ แล้วเขามีความสัมพันธ์กับตัวละครของผู้เล่นอย่างไร ผู้เล่นจะไม่สามารถควบคุม Malroth ได้ เขาจะเป็นคู่หูร่วมผจญภัยเสียมากกว่า ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร เราพูดอะไรไม่ได้มาก แต่มันก็มีเหตุผลว่าทำไมตัวละคร Malroth ถึงมาอยู่ในเกม เราอยากให้ผู้เล่นลองหาจุดเชื่อมโยงกันเองก่อน ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนเครื่องมือโดยที่ไม่ทำให้ค่าสเตตัสเปลี่ยนได้หรือไม่ สามารถทำได้ครับ เหตุผลก็เพราะว่าในภาคนี้เรารองรับระบบ Multiplayer เราเลยอยากให้ผู้เล่นแต่ละคนมีเอกลักษณ์ สร้างความแตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นๆ   Koei Tecmo มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนา Dragon Quest Builders 2 อย่างไรบ้าง ในเกมภาคก่อนหน้านี้ เรามีทีมพัฒนาที่ค่อนข้างเล็กแล้วเราก็ทำกันเอง เหตุผลที่เราตัดสินใจจะใช้ทีมเล็กเป็นเพราะว่า Dragon Quest Builders เป็นเกมที่ใหม่ และก็ยังไม่ค่อยเห็นภาพเกมชัดเท่าไหร่ แต่สำหรับภาคนี้เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนมากๆ ว่าเราอยากจะสร้างเกมออกมาให้เป็นแนวไหน และเราก็อยากจะใส่ทรัพยากรต่างๆ ลงไปในเกม Koei Tecmo เลยช่วยซัพพอร์ทตรงส่วนนี้ ส่วนการดีไซน์เกมมีคุณ Kazuta Niinou ผู้กำกับซึ่งเคยดีไซน์เกมภาคก่อนหน้านี้เป็นตัวหลักในการออกแบบ หลังจากนั้นก็เป็นไปตามกระบวนการ มีการวางแผน มีทีมงานคนอื่นๆ ดังนั้นจริงๆ แล้ว Koei Tecmo ก็มีส่วนช่วยแทบทุกส่วนของเกม ทั้งนี้ Dragon Quest Builders 2 เป็นเกมแนว Sand box ที่แยกมาจากซีรีส์เกม JRPG เรือธงของค่าย มีแผนจัดจำหน่ายผ่านทาง PlayStation 4 และ Switch ในวันที่ 20 ธันวาคม (เฉพาะในญี่ปุ่น) ด้วยราคา 7,800 เยน หรือประมาณ 2,200 บาท เท่าที่ผู้เขียนได้ลองเล่นมาก็ต้องยอมรับเลยว่าตัวเกมทำออกมาได้ดี สนุก และน่าจะถูกใจแฟนเกม Dragon Quest ที่ชอบความคลาสสิค สามารถตามไปอ่านพรีวิวฉบับละเอียดกันได้ที่นี่
02 Oct 2018
ชมเกมเพลย์ใหม่ของ Dragon Quest Builders 2 จากงาน TGS 2018 พร้อมรายละเอียดการทำฟาร์ม
https://www.youtube.com/watch?time_continue=457&v=2eUokEpDWRQ ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกม Square Enix ปล่อยคลิปเกมเพลย์ใหม่ระหว่างการ Live Steam ในงาน Tokyo Game Show 2018 ของ Dragon Quest Builders 2 เกมแนว Sand box ที่แยกมาจากซีรีส์เกม JRPG เรือธงของค่าย อย่าง Dragon Quest ที่ล่าสุดเพิ่งออกภาคใหม่ DRAGON QUEST XI: Echoeds of an Elusive Age เมื่อเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ทาง Square Enix ยังได้ปล่อยข้อมูลใหม่ผ่านทางนิตยสารรายสัปดาห์ Jump เกี่ยวกับระบบทำฟาร์มว่าในการเล่นเริ่มต้น "หุ่นไล่กา" กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสิ่งก่อสร้าง เริ่มจากการที่เราปักหุ่นไล่กาลงในพื้นที่ที่มีดินอุดมสมบูรณ์และไม่เป็นพิษ หลังจากนั้นผู้คนบนเกาะ Monzola จะช่วยเราทำไร่พรวนดินเพื่อเตรียมเพาะปลูก จากนั้นเกมก็จะให้เราเพาะเมล็ดลงไปในดิน ชาวบ้านจะเป็นคนรดน้ำให้ เหลือก็แค่รอเวลาให้พืชผักโตก็เท่านั้น ทว่าเรายังคงต้องระวังมอนสเตอร์ที่จะแห่เข้ามาโจมตีเหมือนในภาคเก่าอยู่ดี นอกจากนี้ภาพในนิตยสาร Jump ยังมีกระดิ่งนักสร้าง (Builder Bell) และเครื่องมือนักสร้าง (Builder Tool) โดยเราจะได้กระดิ่งมาจากการที่เราทำงานอย่างหนักบนเกาะ Monzola มีประโยชน์ในการช่วยให้เราสามารถสร้าง Item ใหม่ๆ ได้เพิ่ม ส่วนเครื่องมือนักสร้างมีไว้สำหรับการสร้างสิ่งต่างๆ โดยก่อนหน้านี้ทาง Square Enix เพิ่งปล่อยข้อมูลตัวละครใหม่อย่าง Chako และ Bananzo แห่งเกาะ Monzala Island ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถปลูกพืชผลได้ หน้าที่ของเราในฐานะผู้สร้างก็คือการช่วยคนบนเกาะแก้ปัญหาและทำให้เกาะกลับคืนสู่สภาพที่อุดมสมบูรณ์ให้ได้ ส่วนตัวละคร Chako เป็นตัวละครที่เราจะต้องเจอบนเกาะ Monzola โดยเธอเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะปลูกเหมือนกัน มีเป้าหมายคือการทำให้เกาะกลับมาอยู่ในสภาพที่ดีดังเดิม มี Bananzo ชายชราคอยช่วย Chako สร้างฟาร์ม และเท่าที่เรารู้ตอนนี้ สาเหตุที่ดินแย่เป็นเพราะผล Babango ที่จะมีอยู่รอบๆ เกาะ ผลไม้ชนิดนี้สามารถระเบิดได้และทำให้ดินเสียนั่นเอง ทั้งนี้ Dragon Quest Builders 2 จะจัดจำหน่ายในญี่ปุ่นวันที่ 20 ธันวาคม 2018 ผ่าน PlayStation 4 และ Nintendo Switch ล่าสุดทาง Game Fever ได้มีโอกาสเล่น Dragon Quest Builders 2 ในงาน TGS 2018 ด้วย สามารถอ่านพรีวิวได้ที่นี่ 
22 Sep 2018
พรีวิว: Dragon Quest Builders 2 จากงาน Tokyo Game Show 2018
ถ้าพูดถึงเกมดังจากค่ายผู้พัฒนา Square Enix หนึ่งในเกมยอดฮิตในดวงใจของใครหลายคนคงหนีไม่พ้นเกมแนว JRPG สุดมันส์อย่าง Dragon Quest ที่เพิ่งออกภาค DRAGON QUEST XI: Echoeds of an Elusive Age เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะมีเพื่อนๆ หลายคนที่เล่นจบไปแล้ว ต่อไปก็เป็นคิวของเกม Spin-off อย่าง DRAGON QUEST BUILDERS 2 ที่กำลังจะออกในเดือนธันวาคมปีนี้ ทาง GameFever ได้มีโอกาสทดลองเล่นเกมที่งาน Tokyo Game Show 2018 เลยอยากมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านเป็นออร์เดิร์ฟก่อนเกมออก DRAGON QUEST BUILDERS 2 เป็นเกมพิเศษที่แยกออกมาจากภาคหลัก ทว่าก็ยังคงเนื้อเรื่องหลักพร้อมภารกิจให้ทำ เรียกได้ว่าเป็นเกมลูกผสมระหว่าง JRPG และ Sand box เลยก็ว่าได้ มีหน้าตาทรงลูกบาศก์และระบบการเล่นคล้ายกับเกมดังอย่าง Minecraft ที่จะให้เราออกสำรวจโลก ฟาร์มของ เก็บทรัพยากร และสร้างสรรค์โลกขึ้นมาใหม่ในฐานะ "นักสร้าง" เนื้อเรื่องของ Dragon Quest Builders 2 จะเริ่มต่อจากฉากที่ Shidoh ตัวร้ายจาก Dragon Quest II: Luminaries of the Legendary Line (2530) พ่ายแพ้ให้แก่ผู้กล้า ในขณะที่โลกกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความสงบสุขกลุ่ม "Hargon Order" อดีตลูกน้องของบอสตัวแรกๆ ของเกม Hargon ก็พยายามที่จะทำลายโลกอีกครั้ง พร้อมกำจัดเหล่าผู้สร้างที่สามารถกอบกู้อารยธรรมของโลกได้ [caption id="attachment_6017" align="alignnone" width="1280"] Shidoh บอสจาก Dragon Quest II[/caption] โดยเกมก็ละเอียดพอที่จะสร้างบรรยากาศเก่าๆ ให้เราหวนนึกถึง Dragon Quest II ทั้งเพลงตอนเลือกตัวละคร ลักษณะภาพในมินิแมพ รวมไปถึงบอสจากภาคเก่า เรียกได้ว่ารวบรวมความคลาสสิคที่แฟนเกม Dragon Quest จะชื่นชอบไว้อย่างครบครัน เริ่มเกมมาเราจะสามารถเลือกเพศของตัวละครได้ว่าจะเล่นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แตกต่างจาก DRAGON QUEST BUILDERS 1 มีเพลง Love song (Only lonely boy) จากเกมหลักภาค 2 เปิดคลอให้ได้บรรยากาศและความคิดถึงเก่าๆ หลังจากนั้นก็ยังเลือกได้ว่า ตอนเริ่มเกมอยากเริ่มเล่นจากจุดไหนก่อน มีทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน [caption id="attachment_6018" align="alignnone" width="1280"] ผู้กล้าถูกจับโดยกลุ่ม Hargon Order[/caption] แบบแรกคือ การเริ่มเล่นจากตอนที่เราอยู่บนเรือโดยมีเนื้อเรื่องต่อจากตอนจบของ Dragon Quest II (2530) ถือเป็น Tutorial แรกของเกมที่จะสอนเราว่าระบบการเล่นเป็นอย่างไร ตั้งแต่การนอนและกินเพื่อเพิ่มเลือด การต่อสู้แบบมือเปล่า การคราฟท์ของ การเก็บทรัพยากร การต่อสู้กับมอนสเตอร์ รวมไปถึงการยกของ ซึ่งเราจะเรียนรู้ได้จาก Shidoh (Malroth) บอสภาค 2 ที่เป็น NPC อยู่บนเรือคอยป้อนภารกิจที่จะค่อยๆ ทำให้เราชินกับตัวเกม จนเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจบนเรือแล้ว จู่ๆ เรือก็อัปปางเราก็หมดสติไปและตื่นขึ้นมาอยู่บนเกาะที่เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัย แบบที่สองคือ การเริ่มจากเราอยู่บนเกาะเลย โหมดนี้จะสอนให้เราเริ่มต้นเก็บทรัพยากร คราฟท์ของ และสร้างบ้าน ผ่าน NPC ต่างๆ ที่จะช่วยสอนระบบการเล่น ที่สำคัญที่สุดคือเพื่อนที่คอยติดตามเรามาคือบอสจากภาคสอง อย่าง Shidoh ที่มาในร่างเด็กหนุ่มผู้สูญเสียความทรงจำ และได้กลายมาเป็นคู่หูร่วมผจญภัยไปกับเราด้วย ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีฉากเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ที่ Shidoh จะกลายมาเป็นบอสในภารกิจสุดท้ายก่อนจบเกมหรือไม่ [caption id="attachment_6016" align="alignnone" width="1280"] ผู้สร้าง และคู่หูบอสเก่า Shidoh[/caption] ด้านกราฟิกทำออกมาได้น่าสนใจมาก ภาพระหว่างเกมสวย ดูสมัยใหม่ ในขณะที่ก็ให้ความรู้สึกคลาสสิคตามแบบฉบับเกมแนว Famicom ผ่านรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างหน้าตาของมินิแมพที่ดูย้อนยุค ลดทอนดีเทลของแผนที่ให้ออกมาในแนวเรโทร นอกจากนี้เมื่อกดปุ่ม touch pad แล้วยังเปลี่ยนมุมมองของมินิแมพให้เป็นมุม Bird eye view ซึ่งก็ใช้สไตล์ที่ย้อนยุค ถูกใจแฟนเกมคลาสสิคแน่นอน   สิ่งที่แตกต่างไปจากภาคก่อนๆ มีดังนี้ น้ำ: น้ำกลายเป็นส่วนสำคัญของเกม ในภาคนี้เราสามารถเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำ สร้างภูมิประเทศได้หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโลกใต้น้ำให้เหล่านักสร้าง (Builder) ได้ลงไปสำรวจอีกด้วย EXP:การตีมอนสเตอร์ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้น เมื่อในภาคนี้ตัวละครของเราสามารถเก็บ Exp ได้จากการฟาร์มมอนสเตอร์ หลอดเลเวลไม่ได้เป็นเลเวลของบ้านเหมือนภาคแรก ทั้งนี้เนื่องจากเราได้ลองเล่นไปแค่ 20 นาทีและยังไม่ได้ไปจนถึงจุดที่สามารถอัพเลเวลได้เยอะๆ เลยยังไม่แน่ใจว่าหลอดเลเวลนี้ส่งผลอย่างไรต่อตัวเกมกันแน่ Builder Point: ภาคนี้มีเกจ Builder Point เพิ่มขึ้นมา โดยทุกครั้งที่เราทำภารกิจเกี่ยวกับการสร้างบ้านสำเร็จ NPC จะแจกหัวใจให้ ซึ่งเราก็ยังไม่แน่ใจอีกเหมือนกันว่าหากเลเวลอัพแล้วจะสามารถทำอะไรได้ แต่ที่แน่ๆ คือไม่เหมือนกับทั้งเลเวลบ้านและของตอบแทนจากภาคก่อนอย่าง Seed of life แน่นอน ถุงมือยกของ: ภาคนี้เราจะได้เครื่องไม้เครื่องมือมาเพิ่มคือถุงมือวิเศษที่จะช่วยให้เราเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ ฟังดูเผินๆ ก็เหมือนจะคล้ายกับภาคแรกที่สามารถยกของได้เลยด้วยมือเปล่า แต่ที่พิเศษกว่าก็คือเราสามารถใช้ถุงมือที่ว่านี่เคลื่อนย้ายดินหรือก้อนหินได้โดยไม่ต้องเสียเวลาทุบแล้วค่อยขนย้ายให้เสียเวลาเหมือนภาคเก่า ถือว่าเป็นเครื่องทุ่นแรงที่ดีจริงๆ การวิ่ง: ภาคนี้เราสามารถวิ่งได้โดยกด R1 โดยท่าวิ่งจะคล้ายกับท่าวิ่งของอาราเล่ ช่วยลดเวลาในการเคลื่อนย้ายได้มาก ทว่าก็ไม่สามารถใช้ได้ตลอดเพราะเมื่อกดวิ่งจะลดค่า Stamina การนอน: ในภาคก่อนหากเราเลือดลดแล้วต้องการจะฟื้นเลือด เราสามารถนอนได้ซึ่งจะเป็นการผลัดเปลี่ยนวันโดยอัตโนมัติ แต่ภาคนี้การนอนไม่ได้ทำให้เราสามารถข้ามเวลาได้อีกต่อไป เป็นแค่การค่อยๆ เพิ่มเลือดทีละ 2 หน่วยต่อวินาที หากเลือดเต็มแล้ว ตัวละครก็สามารถใช้ชีวิตต่อได้อย่างปกติ จุดนี้น่าจะเป็นเปลี่ยนการดำเนินเรื่องของเกมอยู่พอสมควร เพราะทำให้เราไม่สามารถข้ามตอนกลางคืนซึ่งเป็นช่วงเวลาอันตรายไปได้ การคราฟท์: การคราฟท์ของถือเป็นส่วนที่สำคัญมากของเกมแนว Sand box โดยในภาคใหม่นี้ ตัวเกมได้ช่วยลดภาระทำให้การคราฟท์ของง่ายขึ้นอีกเยอะ เพราะเราไม่จำเป็นต้องแปรรูปทรัพยากรมากเท่าภาคเก่า เช่น หากเราต้องการเชือก เราสามารถฟาร์มจากเถาวัลย์ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเก็บใบไม้ไปคราฟท์เป็นเชือกอีกทอด เท่าที่ผู้เขียนได้ลองเล่นเกมมาประมาณ 20 นาที ถือว่า Dragon Quest Builders 2 ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าประทับใจ เหมาะกับแฟนเกมซีรีส์ Dragon Quest ทั้งภาคเก่าและ Builders ที่เคยออกมาแล้ว เพลงและกราฟิกภาพสามารถดึงภาพเก่าๆ ของ Dragon Quest II ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงระบบการเล่นที่ปรับปรุงใหม่ ก็ช่วยลดเวลาและความยุ่งยากไปได้เยอะเลยทีเดียว  
20 Sep 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Dragon Quest Builder II"
บทสัมภาษณ์ผู้พัฒนา Dragon Quest Builders 2 กับคำถามที่จะทำให้คุณรู้จักตัวเกมมากขึ้น
เกมหนึ่งที่น่าสนใจ หลังจากที่ GameFever  ได้ไปทดลองเล่นในงาน Tokyo Game Show 2018 ก็คือ Dragon Quest Builders 2 เกมแนว Sandbox ที่จะให้ผู้เล่นสวมวิญญาณเป็นนักสร้าง ช่วยฟื้นฟูโลกและต่อกรกับเหล่าร้าย มีเนื้อเรื่องหลักเชื่อมมาจาก Dragon Quest II ที่เคยออกมาตั้งแต่ปี 2530 โดยเราก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์สองโปรดิวเซอร์ของ Dragon Quest Builders 2 อย่างคุณ Noriyoshi Fujimoto และ คุณ Takuma Shiraishi กับคำถามที่จะทำให้เพื่อนๆ รู้จักเกมในดวงใจมากขึ้น   เกม Dragon Quest Builders 2 จะมีส่วนไหนที่คล้ายกับเกม Dragon Quest XI: Echoeds of an Elusive Age ที่เพิ่งออกมาบ้างหรือเปล่า ทั้งสองเกมนี้ (Dragon Quest 11 และ Dragon Quest Builder 2) ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย อันที่จริง Dragon Quest Builder 2 มีอ้างอิงมาจากโลกของ Dragon Quest II: Luminaries of the Legendary Line เสียมากกว่า ดังนั้นผู้เล่นจะเห็นความเชื่อมโยงของเกม Spin-off นี้กับเกมหลักอย่างภาค 2 ค่อนข้างมาก   ภาคนี้เป็นภาคแรกที่เกมเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ลงไปสำรวจโลกใต้น้ำได้ เท่าที่ผมสังเกตเห็น ตอนที่ตัวละครว่ายอยู่ในน้ำจะมีหลอด Stamina ขึ้น อยากทราบว่าหากค่า Stamina ลดลงแล้วจะเกิดอะไรขึ้น การลดลงของค่า Stamina ไม่ได้รุนแรงจนถึงขั้นทำให้ตัวละครตายได้ แต่มันถูกดีไซน์ออกมาให้แบบที่ทำให้ผู้เล่นไม่อยากให้ค่านี้หมดลง ถ้าถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ผู้เล่นต้องทำก็คือจะต้องกลับขึ้นไปบนเกาะหรือชายฝั่งที่ใกล้ที่สุด ใน Dragon Quest Builder 2 มีระบบสภาพอากาศ หรือภัยพิบัติอะไรหรือไม่ ที่จะสามารถทำลายสิ่งก่อสร้างของผู้เล่นได้ ในเกมจะไม่มีภัยพิบัติธรรมชาติใดๆ แต่ว่าคุณจะได้เจอกับเหล่ามอนสเตอร์ที่จะพุ่งเข้ามาทำร้ายคุณ และคุณก็ต้องพยายามต่อสู้ป้องกันศัตรูเหล่านี้ ซึ่งถือเป็นคอนเซปต์หลักของเกม นอกจากนี้มอนสเตอร์บางชนิดก็ยังสามารถทำลายสิ่งก่อสร้างหรือการเพาะปลูกของเราได้อีกด้วย   เกาะในเกมมีลักษณะเป็นแบบไหน ผู้เล่นทุกคนจะเจอเกาะที่เหมือนกัน หรือว่าตัวเกมจะสุ่มเกาะออกมาให้แตกต่างกันเหมือนอย่างเกม Minecraft แม้เกาะตอนที่ตัวละครตื่นขึ้นมาตอนแรกจะมีลักษณะเหมือนกันหมดทุกคน แต่ผู้เล่นก็สามารถปรับเปลี่ยนเกาะได้ตามใจชอบ ตอนแรกเราก็มีระบบอัลกอริทึ่มที่ชื่อว่า Procedural Generation ช่วยสร้างแผนที่แบบสุ่มอยู่เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามเกมนี้ถูกดีไซน์ให้ค่อนข้างผูกอยู่กับเนื้อเรื่องหลัก พอต้องทำเควสท์แล้วระบบการมีระบบ Procedural Generation เราเลยตัดสินใจเอาระบบนี้ออกซะ ทำไมถึงต้องคงความสูงของการสร้างบล็อกไว้สูงสุดที่ 100 ชั้น ทำไมไม่ออกแบบเกมให้สร้างสิ่งก่อสร้างที่สูงกว่านั้นได้ อันที่จริงเราก็อยากจะให้สร้างสูงเท่าที่จะสร้างได้ แต่เราต้องทำให้องค์ประกอบต่างๆ ของเกมสมดุลย์กันด้วยและความสูงที่ 100 บล็อกนี้ก็สูงที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ในตอนนี้   เราสามารถสร้างสิ่งก่อสร้างให้สูงสุดได้ 100 ชั้น แล้วเราสามารถขุดลงไปได้กี่ชั้น 100 ชั้นคือข้อกำกัดของทั้งความสูงและความลึกรวมกัน ซึ่งแต่ละเกาะจะมีจุดเริ่มต้นของการสร้างที่ไม่เหมือนกัน (เช่น บางเกาะมีพื้นสูงอยู่แล้ว 10 บล็อค) หรือในบางกรณีผู้เล่นก็อาจจะต้องทำการขุดลงไปได้ลึกลงไปอีก (อธิบายสั้นๆ ก็คือ ความสูง 100 บล็อคที่เกมรองรับให้ผู้เล่นสามารถสร้างได้ นับจากความสูงของพื้นทะเลขึ้นมานั่นเอง) มันค่อนข้างชัดเจนว่าเกมถูกสร้างมาให้อยู่ในโลกของ Dragon Quest 2 จะโอกาสมั้ยที่เราจะได้เห็นบอสหรือมอนสเตอร์จากเกมในซีรีส์หลักนี้ เรายังให้คำตอบหรือเปิดเผยตอนนี้ไม่ได้ แต่เท่าที่พวกคุณเห็นคือในคลิปเทรลเลอร์ก็มีเหล่ามอนสเตอร์ออกมาให้เห็น เราอยากให้พวกคุณเอาคำใบ้เหล่านี้มาลองจินตนาการกันเองไปก่อน   เราประทับใจที่ Malroth จะได้รับบทให้เป็นผู้ร่วมผจญภัยไปกับผู้เล่นด้วย คำถามคือแล้วผู้เล่นสามารถควบคุมตัวละคร Malroth ได้หรือไม่ แล้วเขามีความสัมพันธ์กับตัวละครของผู้เล่นอย่างไร ผู้เล่นจะไม่สามารถควบคุม Malroth ได้ เขาจะเป็นคู่หูร่วมผจญภัยเสียมากกว่า ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร เราพูดอะไรไม่ได้มาก แต่มันก็มีเหตุผลว่าทำไมตัวละคร Malroth ถึงมาอยู่ในเกม เราอยากให้ผู้เล่นลองหาจุดเชื่อมโยงกันเองก่อน ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนเครื่องมือโดยที่ไม่ทำให้ค่าสเตตัสเปลี่ยนได้หรือไม่ สามารถทำได้ครับ เหตุผลก็เพราะว่าในภาคนี้เรารองรับระบบ Multiplayer เราเลยอยากให้ผู้เล่นแต่ละคนมีเอกลักษณ์ สร้างความแตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นๆ   Koei Tecmo มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนา Dragon Quest Builders 2 อย่างไรบ้าง ในเกมภาคก่อนหน้านี้ เรามีทีมพัฒนาที่ค่อนข้างเล็กแล้วเราก็ทำกันเอง เหตุผลที่เราตัดสินใจจะใช้ทีมเล็กเป็นเพราะว่า Dragon Quest Builders เป็นเกมที่ใหม่ และก็ยังไม่ค่อยเห็นภาพเกมชัดเท่าไหร่ แต่สำหรับภาคนี้เรามีเป้าหมายที่ชัดเจนมากๆ ว่าเราอยากจะสร้างเกมออกมาให้เป็นแนวไหน และเราก็อยากจะใส่ทรัพยากรต่างๆ ลงไปในเกม Koei Tecmo เลยช่วยซัพพอร์ทตรงส่วนนี้ ส่วนการดีไซน์เกมมีคุณ Kazuta Niinou ผู้กำกับซึ่งเคยดีไซน์เกมภาคก่อนหน้านี้เป็นตัวหลักในการออกแบบ หลังจากนั้นก็เป็นไปตามกระบวนการ มีการวางแผน มีทีมงานคนอื่นๆ ดังนั้นจริงๆ แล้ว Koei Tecmo ก็มีส่วนช่วยแทบทุกส่วนของเกม ทั้งนี้ Dragon Quest Builders 2 เป็นเกมแนว Sand box ที่แยกมาจากซีรีส์เกม JRPG เรือธงของค่าย มีแผนจัดจำหน่ายผ่านทาง PlayStation 4 และ Switch ในวันที่ 20 ธันวาคม (เฉพาะในญี่ปุ่น) ด้วยราคา 7,800 เยน หรือประมาณ 2,200 บาท เท่าที่ผู้เขียนได้ลองเล่นมาก็ต้องยอมรับเลยว่าตัวเกมทำออกมาได้ดี สนุก และน่าจะถูกใจแฟนเกม Dragon Quest ที่ชอบความคลาสสิค สามารถตามไปอ่านพรีวิวฉบับละเอียดกันได้ที่นี่
02 Oct 2018
ชมเกมเพลย์ใหม่ของ Dragon Quest Builders 2 จากงาน TGS 2018 พร้อมรายละเอียดการทำฟาร์ม
https://www.youtube.com/watch?time_continue=457&v=2eUokEpDWRQ ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกม Square Enix ปล่อยคลิปเกมเพลย์ใหม่ระหว่างการ Live Steam ในงาน Tokyo Game Show 2018 ของ Dragon Quest Builders 2 เกมแนว Sand box ที่แยกมาจากซีรีส์เกม JRPG เรือธงของค่าย อย่าง Dragon Quest ที่ล่าสุดเพิ่งออกภาคใหม่ DRAGON QUEST XI: Echoeds of an Elusive Age เมื่อเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ทาง Square Enix ยังได้ปล่อยข้อมูลใหม่ผ่านทางนิตยสารรายสัปดาห์ Jump เกี่ยวกับระบบทำฟาร์มว่าในการเล่นเริ่มต้น "หุ่นไล่กา" กลายมาเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสิ่งก่อสร้าง เริ่มจากการที่เราปักหุ่นไล่กาลงในพื้นที่ที่มีดินอุดมสมบูรณ์และไม่เป็นพิษ หลังจากนั้นผู้คนบนเกาะ Monzola จะช่วยเราทำไร่พรวนดินเพื่อเตรียมเพาะปลูก จากนั้นเกมก็จะให้เราเพาะเมล็ดลงไปในดิน ชาวบ้านจะเป็นคนรดน้ำให้ เหลือก็แค่รอเวลาให้พืชผักโตก็เท่านั้น ทว่าเรายังคงต้องระวังมอนสเตอร์ที่จะแห่เข้ามาโจมตีเหมือนในภาคเก่าอยู่ดี นอกจากนี้ภาพในนิตยสาร Jump ยังมีกระดิ่งนักสร้าง (Builder Bell) และเครื่องมือนักสร้าง (Builder Tool) โดยเราจะได้กระดิ่งมาจากการที่เราทำงานอย่างหนักบนเกาะ Monzola มีประโยชน์ในการช่วยให้เราสามารถสร้าง Item ใหม่ๆ ได้เพิ่ม ส่วนเครื่องมือนักสร้างมีไว้สำหรับการสร้างสิ่งต่างๆ โดยก่อนหน้านี้ทาง Square Enix เพิ่งปล่อยข้อมูลตัวละครใหม่อย่าง Chako และ Bananzo แห่งเกาะ Monzala Island ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถปลูกพืชผลได้ หน้าที่ของเราในฐานะผู้สร้างก็คือการช่วยคนบนเกาะแก้ปัญหาและทำให้เกาะกลับคืนสู่สภาพที่อุดมสมบูรณ์ให้ได้ ส่วนตัวละคร Chako เป็นตัวละครที่เราจะต้องเจอบนเกาะ Monzola โดยเธอเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะปลูกเหมือนกัน มีเป้าหมายคือการทำให้เกาะกลับมาอยู่ในสภาพที่ดีดังเดิม มี Bananzo ชายชราคอยช่วย Chako สร้างฟาร์ม และเท่าที่เรารู้ตอนนี้ สาเหตุที่ดินแย่เป็นเพราะผล Babango ที่จะมีอยู่รอบๆ เกาะ ผลไม้ชนิดนี้สามารถระเบิดได้และทำให้ดินเสียนั่นเอง ทั้งนี้ Dragon Quest Builders 2 จะจัดจำหน่ายในญี่ปุ่นวันที่ 20 ธันวาคม 2018 ผ่าน PlayStation 4 และ Nintendo Switch ล่าสุดทาง Game Fever ได้มีโอกาสเล่น Dragon Quest Builders 2 ในงาน TGS 2018 ด้วย สามารถอ่านพรีวิวได้ที่นี่ 
22 Sep 2018
พรีวิว: Dragon Quest Builders 2 จากงาน Tokyo Game Show 2018
ถ้าพูดถึงเกมดังจากค่ายผู้พัฒนา Square Enix หนึ่งในเกมยอดฮิตในดวงใจของใครหลายคนคงหนีไม่พ้นเกมแนว JRPG สุดมันส์อย่าง Dragon Quest ที่เพิ่งออกภาค DRAGON QUEST XI: Echoeds of an Elusive Age เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะมีเพื่อนๆ หลายคนที่เล่นจบไปแล้ว ต่อไปก็เป็นคิวของเกม Spin-off อย่าง DRAGON QUEST BUILDERS 2 ที่กำลังจะออกในเดือนธันวาคมปีนี้ ทาง GameFever ได้มีโอกาสทดลองเล่นเกมที่งาน Tokyo Game Show 2018 เลยอยากมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านเป็นออร์เดิร์ฟก่อนเกมออก DRAGON QUEST BUILDERS 2 เป็นเกมพิเศษที่แยกออกมาจากภาคหลัก ทว่าก็ยังคงเนื้อเรื่องหลักพร้อมภารกิจให้ทำ เรียกได้ว่าเป็นเกมลูกผสมระหว่าง JRPG และ Sand box เลยก็ว่าได้ มีหน้าตาทรงลูกบาศก์และระบบการเล่นคล้ายกับเกมดังอย่าง Minecraft ที่จะให้เราออกสำรวจโลก ฟาร์มของ เก็บทรัพยากร และสร้างสรรค์โลกขึ้นมาใหม่ในฐานะ "นักสร้าง" เนื้อเรื่องของ Dragon Quest Builders 2 จะเริ่มต่อจากฉากที่ Shidoh ตัวร้ายจาก Dragon Quest II: Luminaries of the Legendary Line (2530) พ่ายแพ้ให้แก่ผู้กล้า ในขณะที่โลกกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความสงบสุขกลุ่ม "Hargon Order" อดีตลูกน้องของบอสตัวแรกๆ ของเกม Hargon ก็พยายามที่จะทำลายโลกอีกครั้ง พร้อมกำจัดเหล่าผู้สร้างที่สามารถกอบกู้อารยธรรมของโลกได้ [caption id="attachment_6017" align="alignnone" width="1280"] Shidoh บอสจาก Dragon Quest II[/caption] โดยเกมก็ละเอียดพอที่จะสร้างบรรยากาศเก่าๆ ให้เราหวนนึกถึง Dragon Quest II ทั้งเพลงตอนเลือกตัวละคร ลักษณะภาพในมินิแมพ รวมไปถึงบอสจากภาคเก่า เรียกได้ว่ารวบรวมความคลาสสิคที่แฟนเกม Dragon Quest จะชื่นชอบไว้อย่างครบครัน เริ่มเกมมาเราจะสามารถเลือกเพศของตัวละครได้ว่าจะเล่นเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แตกต่างจาก DRAGON QUEST BUILDERS 1 มีเพลง Love song (Only lonely boy) จากเกมหลักภาค 2 เปิดคลอให้ได้บรรยากาศและความคิดถึงเก่าๆ หลังจากนั้นก็ยังเลือกได้ว่า ตอนเริ่มเกมอยากเริ่มเล่นจากจุดไหนก่อน มีทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน [caption id="attachment_6018" align="alignnone" width="1280"] ผู้กล้าถูกจับโดยกลุ่ม Hargon Order[/caption] แบบแรกคือ การเริ่มเล่นจากตอนที่เราอยู่บนเรือโดยมีเนื้อเรื่องต่อจากตอนจบของ Dragon Quest II (2530) ถือเป็น Tutorial แรกของเกมที่จะสอนเราว่าระบบการเล่นเป็นอย่างไร ตั้งแต่การนอนและกินเพื่อเพิ่มเลือด การต่อสู้แบบมือเปล่า การคราฟท์ของ การเก็บทรัพยากร การต่อสู้กับมอนสเตอร์ รวมไปถึงการยกของ ซึ่งเราจะเรียนรู้ได้จาก Shidoh (Malroth) บอสภาค 2 ที่เป็น NPC อยู่บนเรือคอยป้อนภารกิจที่จะค่อยๆ ทำให้เราชินกับตัวเกม จนเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจบนเรือแล้ว จู่ๆ เรือก็อัปปางเราก็หมดสติไปและตื่นขึ้นมาอยู่บนเกาะที่เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัย แบบที่สองคือ การเริ่มจากเราอยู่บนเกาะเลย โหมดนี้จะสอนให้เราเริ่มต้นเก็บทรัพยากร คราฟท์ของ และสร้างบ้าน ผ่าน NPC ต่างๆ ที่จะช่วยสอนระบบการเล่น ที่สำคัญที่สุดคือเพื่อนที่คอยติดตามเรามาคือบอสจากภาคสอง อย่าง Shidoh ที่มาในร่างเด็กหนุ่มผู้สูญเสียความทรงจำ และได้กลายมาเป็นคู่หูร่วมผจญภัยไปกับเราด้วย ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีฉากเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ที่ Shidoh จะกลายมาเป็นบอสในภารกิจสุดท้ายก่อนจบเกมหรือไม่ [caption id="attachment_6016" align="alignnone" width="1280"] ผู้สร้าง และคู่หูบอสเก่า Shidoh[/caption] ด้านกราฟิกทำออกมาได้น่าสนใจมาก ภาพระหว่างเกมสวย ดูสมัยใหม่ ในขณะที่ก็ให้ความรู้สึกคลาสสิคตามแบบฉบับเกมแนว Famicom ผ่านรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างหน้าตาของมินิแมพที่ดูย้อนยุค ลดทอนดีเทลของแผนที่ให้ออกมาในแนวเรโทร นอกจากนี้เมื่อกดปุ่ม touch pad แล้วยังเปลี่ยนมุมมองของมินิแมพให้เป็นมุม Bird eye view ซึ่งก็ใช้สไตล์ที่ย้อนยุค ถูกใจแฟนเกมคลาสสิคแน่นอน   สิ่งที่แตกต่างไปจากภาคก่อนๆ มีดังนี้ น้ำ: น้ำกลายเป็นส่วนสำคัญของเกม ในภาคนี้เราสามารถเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำ สร้างภูมิประเทศได้หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโลกใต้น้ำให้เหล่านักสร้าง (Builder) ได้ลงไปสำรวจอีกด้วย EXP:การตีมอนสเตอร์ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้น เมื่อในภาคนี้ตัวละครของเราสามารถเก็บ Exp ได้จากการฟาร์มมอนสเตอร์ หลอดเลเวลไม่ได้เป็นเลเวลของบ้านเหมือนภาคแรก ทั้งนี้เนื่องจากเราได้ลองเล่นไปแค่ 20 นาทีและยังไม่ได้ไปจนถึงจุดที่สามารถอัพเลเวลได้เยอะๆ เลยยังไม่แน่ใจว่าหลอดเลเวลนี้ส่งผลอย่างไรต่อตัวเกมกันแน่ Builder Point: ภาคนี้มีเกจ Builder Point เพิ่มขึ้นมา โดยทุกครั้งที่เราทำภารกิจเกี่ยวกับการสร้างบ้านสำเร็จ NPC จะแจกหัวใจให้ ซึ่งเราก็ยังไม่แน่ใจอีกเหมือนกันว่าหากเลเวลอัพแล้วจะสามารถทำอะไรได้ แต่ที่แน่ๆ คือไม่เหมือนกับทั้งเลเวลบ้านและของตอบแทนจากภาคก่อนอย่าง Seed of life แน่นอน ถุงมือยกของ: ภาคนี้เราจะได้เครื่องไม้เครื่องมือมาเพิ่มคือถุงมือวิเศษที่จะช่วยให้เราเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ ฟังดูเผินๆ ก็เหมือนจะคล้ายกับภาคแรกที่สามารถยกของได้เลยด้วยมือเปล่า แต่ที่พิเศษกว่าก็คือเราสามารถใช้ถุงมือที่ว่านี่เคลื่อนย้ายดินหรือก้อนหินได้โดยไม่ต้องเสียเวลาทุบแล้วค่อยขนย้ายให้เสียเวลาเหมือนภาคเก่า ถือว่าเป็นเครื่องทุ่นแรงที่ดีจริงๆ การวิ่ง: ภาคนี้เราสามารถวิ่งได้โดยกด R1 โดยท่าวิ่งจะคล้ายกับท่าวิ่งของอาราเล่ ช่วยลดเวลาในการเคลื่อนย้ายได้มาก ทว่าก็ไม่สามารถใช้ได้ตลอดเพราะเมื่อกดวิ่งจะลดค่า Stamina การนอน: ในภาคก่อนหากเราเลือดลดแล้วต้องการจะฟื้นเลือด เราสามารถนอนได้ซึ่งจะเป็นการผลัดเปลี่ยนวันโดยอัตโนมัติ แต่ภาคนี้การนอนไม่ได้ทำให้เราสามารถข้ามเวลาได้อีกต่อไป เป็นแค่การค่อยๆ เพิ่มเลือดทีละ 2 หน่วยต่อวินาที หากเลือดเต็มแล้ว ตัวละครก็สามารถใช้ชีวิตต่อได้อย่างปกติ จุดนี้น่าจะเป็นเปลี่ยนการดำเนินเรื่องของเกมอยู่พอสมควร เพราะทำให้เราไม่สามารถข้ามตอนกลางคืนซึ่งเป็นช่วงเวลาอันตรายไปได้ การคราฟท์: การคราฟท์ของถือเป็นส่วนที่สำคัญมากของเกมแนว Sand box โดยในภาคใหม่นี้ ตัวเกมได้ช่วยลดภาระทำให้การคราฟท์ของง่ายขึ้นอีกเยอะ เพราะเราไม่จำเป็นต้องแปรรูปทรัพยากรมากเท่าภาคเก่า เช่น หากเราต้องการเชือก เราสามารถฟาร์มจากเถาวัลย์ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเก็บใบไม้ไปคราฟท์เป็นเชือกอีกทอด เท่าที่ผู้เขียนได้ลองเล่นเกมมาประมาณ 20 นาที ถือว่า Dragon Quest Builders 2 ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าประทับใจ เหมาะกับแฟนเกมซีรีส์ Dragon Quest ทั้งภาคเก่าและ Builders ที่เคยออกมาแล้ว เพลงและกราฟิกภาพสามารถดึงภาพเก่าๆ ของ Dragon Quest II ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงระบบการเล่นที่ปรับปรุงใหม่ ก็ช่วยลดเวลาและความยุ่งยากไปได้เยอะเลยทีเดียว  
20 Sep 2018